สร้างอุปนิสัยที่ดี ช่วยส่งเสริมสุขภาพ
เมื่อพูดถึงการทำกิจวัตรประจำวัน ทุกคนน่าจะพอทราบว่า กิจวัตรที่ดีสามารถช่วยส่งเสริมการทำงานที่ดีขึ้นได้ นัยหนึ่งคือทำให้เราบริหารจัดการเวลาได้ดี แต่ทราบมั้ยครับว่าการบริหารจัดการเวลาที่ดี ก็ช่วยให้เราสุขภาพดีขึ้นได้ด้วย
ทุกวันนี้ หลายๆคน โดยเฉพาะในวัยทำงาน มีปัญหาเรื่องความเครียดสะสม อดนอน หรือนอนไม่เป็นเวลา การรับประทานที่ไม่ดี ขาดการออกกำลังกาย แน่นอนว่าทุกคนมีเวลาจำกัด ลำพังจัดการเรื่องเวลาทำงานก็วุ่นวายมากพอแล้ว เรื่องสุขภาพเลยมักจะถูกจัดการเป็นลำดับท้ายๆเสมอ นั่นส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพในท้ายที่สุด
แต่ก็เพราะเวลาอันจำกัดนี่แหละครับ ที่พวกเราต้องเริ่มหันมาจัดการเวลาให้ดี และก็ไม่ควรละเลยเวลาสำหรับดูแลสุขภาพ งานวิจัยพบว่าการจัดการเวลาที่ดี ช่วยให้ทำงานสัมฤทธิ์ผลมากขึ้น และยังมีผลดีต่อความเครียด และลดความวิตกกังวลได้ เป็นปัญหา work-life conflict จากการจัดการเวลาที่ไม่ดี ที่น่าสนใจคือพบปัญหานี้มากขึ้นจากการทำงานที่บ้าน ก็พอเข้าใจได้นะครับ อยู่บ้านทำงานเอง ก็ยิ่งต้องอาศัยการบริหารเวลาที่ดียิ่งขึ้น
แนวทางนึงที่สำคัญในการจัดการเวลาก็คือการสร้างกิจวัตรประจำวันขึ้นมา อะไรที่เราสร้างเป็นอปุนิสัยได้แล้ว มนุษย์เราก็จะสามารถปฏิบัติง่ายขึ้นโดยอัตโนมัติ แต่สิ่งนึงที่ผมเองอยากจะแนะนำ ก็คือ ไม่ควรจะเคร่งเครียดกับมันมากนัก ควรสนุกไปกับมัน ต้องรู้จักปรับเปลี่ยนให้เหมาะกับสถานการณ์ โอนอ่อนผ่อนตามได้ตามที่สมควร ไม่อย่างนั้นอาจจะยิ่งทำให้เราเครียดมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ
จัดการงานให้ดี ลดความเครียดได้
ลองวางแผนงานล่วงหน้า รายสัปดาห์ หรือรายวันล่วงหน้า เมื่อรู้แพลนงาน เราจะทำมันได้ดีขึ้น ใช้เวลาน้อยลง และเมื่องานดี ความเครียดก็น้อย ความภาคภูมิใจ ก็ยิ่งส่งผลให้เราทำงานได้ดีขึ้นไปอีก แพลนเวลาสำหรับการจัดการความเครียด เช่น การออกกำลังกาย การทำสมาธิ หรือแม้แต่การพักผ่อนสบายๆเอง หลายๆคนทำตารางสำหรับทุกงาน แต่ลืมให้เวลากับตัวเอง ตรงนี้สำคัญมากครับ
การนอน ต้องใส่ใจ
การนอนที่ไม่เพียงพอ เป็นความเครียดที่สำคัญ แม้กระทั่งในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ก็ต้องไม่ละเลยเรื่องนี้นะครับ เหมือนในภาษาอังกฤษ มีคำว่า sleep on it ส่วนตัวผมมองว่าคือมันแปลตรงตัวอย่างนั้นจริงๆครับ อะไรยากๆ คิดไม่ตก เครียดเยอะๆ นอนพักผ่อนสักหน่อย ตื่นมาอาจจะมีไอเดียแก้ปัญหาดีๆก็ได้นะครับ
การออกกำลังกาย ไม่ง่าย แต่ทำได้ทุกคน
พูดถึงเรื่องเวลากับการออกกำลังกาย เป็นข้ออ้างที่หลายคนนิยมใช้กันตลอดนะครับ ผมเองบางครั้งก็เป็น แต่ถ้าเราคิดกันจริงๆแล้ว อาจไม่ใช่เพราะเราไม่มีเวลา แต่เราไม่มีแพลนที่จะออกกำลังกายมากกว่า หรือไม่มีวินัยพอที่จะปฏิบัติตามแพลน ทุกคนสามารถจัดการเวลาในการออกกำลังกายได้ ไม่ว่าเราจะงานยุ่งแค่ไหน แม้ในตอนทำงาน เดินให้มากขึ้น พยายามใช้บันไดแทนลิฟท์ ตั้งเวลาให้ยืดเส้นเบาๆในเวลางาน และหลังเลิกงาน จุดนี้แหละครับ การวางแผนจึงสำคัญ สร้างอุปนิสัยตรงนี้ขึ้นมากันครับ
และข้อสุดท้าย ตรวจเช็คสุขภาพสม่ำเสมอ
ผมมองว่าต้องอาศัยการวางแผนเหมือนกันครับ อาจจะเป็นการวางระยะกลางถึงระยะยาว คือการตรวจสุขภาพครับ จะช่วยให้เรารู้ตัวเอง ว่าควรดูแลเรื่องใดเป็นพิเศษ หรือต้องเริ่มไปปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนดูแลสุขภาพจริงจังหรือยัง โดยปกติแล้วแนะนำให้ทุกคนตรวจสุขภาพปีละครั้ง หรือหากมีปํญหาสุขภาพบางอย่าง ก็อาจจะตรวจบ่อยกว่านั้นได้ แต่เวลาผ่านไปเร็วกว่าที่เราคิดครับ ทำให้หลายๆคนลืมตรงนี้ไป หลายๆคนละเลยเรื่องนี้ไปนาน 5 ปีบ้าง 10 ปีบ้างการตรวจสุขภาพ
ไอเดียการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ครับ แต่ปัจจุบันเป็นเรื่องที่เราหันมาสนใจเรื่องนี้กันมากขึ้น เริ่มต้นที่อุปนิสัยที่ดี ที่จะส่งเสริมเรื่องงาน และเรื่องสุขภาพไปพร้อมๆกัน มาสร้างสังคมสุขภาพดีไปด้วยกันนะครับ เปลี่ยนผ่านจากยุคที่คนสนใจ work-life balance เป็น work-health balance ก็ฟังดูดีนะครับ
เพราะสุขภาพ สำคัญที่สุด อย่างประโยคดีๆ ที่ผมเคยได้ยิน --- “You can’t enjoy wealth if you’re not in good health.”
Dr. Art
"We Measure What Matters."